LURAN S KR2866C
The product line Luran® SC, comprising blends of ASA with PC, shows in general high heat and high impact resistance and long-term property retention. Its UV resistance is not only sufficient for all kind of interior applications – incl. unpainted surfaces in light colors – but also for exterior parts with medium weatherability requirements. Luran® S KR2866C is a very economic solution with low polycarbonate content and high UV and chemical resistance.
Key Features
- Balanced properties
- Chemical resistance
- Long-term property retention
- Colour fastness
Applications
- Unpainted automotive exterior: radiator grills
- Truck: exterior deflectors, grills
Industries
-
Grade Version
Please Sign in or Register with INEOS Styrolution to download REACH and other Regulatory Documents
เพิ่งเข้ามาใหม่ ที่สไตโรลูชั่น ใช่ไหม? ลงทะเบียน ทะเบียน
-
Properties
คุณสมบัติของ
ค่าทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำสีที่ 23 องศาเซลเซียส วิธีการทดสอบ หน่วย ค่า Typical values for uncolored products
Please note that all processing data stated are only indicative and may vary depending on the individual processing complexities.
Please consult our local sales or technical representatives for details. -
Processing
กำลังประมวลผล
ข้อมูลทั่วไป
Luran® S สามารถนำไปขึ้นรูปด้วยกระบวนการใดก็ได้ที่เหมาะกับเทอร์โมพลาสติก กระบวนการที่สำคัญที่สุดคือการฉีดขึ้นรูปด้วยแบบพิมพ์และการอัดรีด
การไล่ความชื้น
เม็ดผลิตภัณฑ์ Luran® S สามารถดูดซึมความชื้นจากอากาศในระหว่างการเก็บรักษาได้เล็กน้อย ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ แต่ก็อาจทำให้มีริ้วลายหรือฟองอากาศเกิดขึ้นได้ในระหว่างกระบวนการผลิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของความชื้น ดังนั้นเราจึงแนะนำให้มีการอบแห้งพื่อไล่ความชื้นสำหรับ Luran ® S ก่อนการนำไปผลิตต่อเพื่อขึ้นรูป
ผลิตภัณฑ์เกรด Luran® S แบบที่มี “C” ต่อท้ายชื่อนั้นหมายถึงมีการผสมกันระหว่าง ASA และ โพลีคาร์บอเนต ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีการไล่ความชื้นเสมอ อุณหภูมิควรอยู่ที่ระหว่าง 10-20 °C ซึ่งต่ำกว่าจุดอ่อนตัวของ Vicat (VST/B/50) โดยสามารถแสดงรายละเอียดภาวะการอบแห้งได้ดังตารางนี้
เงื่อนไขในการอบแห้งของ Luran® S:
อุณหภูมิ
การอบแห้ง
(°C)
ระยะเวลา
การอบแห้ง (h)
ปริมาณความชื้น
ที่ยอมรับได้ (%)
Luran S - ASA grades
80
2-4
<0.1
Luran S - ASA/PC grades
90-115 (*)
2-4
<0.1
*: อุณหภูมิควรอยู่ที่ระหว่าง 10-20 °C ต่ำกว่าจุดอ่อนตัวของ Vicat (VST/B/50)
การใช้พลาสติกชนิดโม่บด
เพราะความเสถียรต่อความร้อนสูง กว่า 30% ของ Luran S ที่ไม่มีการปนเปื้อนจากการผลิตครั้งก่อน สามารถนำมารวมกับวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ได้ โดยใช้เครื่องบีบอัด หรือการทำให้กลายเป็นเม็ด สามารถช่วยลดขนาดได้ ขั้นตอนการการบดหรือโม่ควรทำให้แห้งสนิท
การฉีดขึ้นรูปตามแบบพิมพ์
Luran S สามารถนำไปเข้ากระบวนการขึ้นรูปในเครื่องฉีดขึ้นรูปใดก็ได้ที่มีในท้องตลาด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ เครื่องฉีดขึ้นรูปแบบสกรูเดี่ยว
รูปร่างของสกรู
สกรูแบบธรรมดาเพื่องานเอนกประสงค์สามารถนำมาใช้ได้ ความยาวของสกรูควรอยู่ที่ 16 – 20 D
ข้อมูลที่ให้มาในตารางด้านล่างนี้ เป็นค่าทั่วไปของการออกแบบสกรูซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในการใช้งาน
ค่าสกรูพิทช์นั้นมีความสม่ำเสมอตลอดความยาวของสกรูและควรอยู่ที่ 0.8 – 1 D
ค่าแบบอย่างสำหรับการกำหนดค่าของสกรู:
ความยาวแต่ละส่วน
ความยาวทั้งหมด
16 -20 D
Feed zone
8 - 10 D
Compression zone
4.8 - 6 D
Metering zone
3.2 - 4 D
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของสกรู (มม.)
ความลึกของร่องสกรู
ช่วง feed zone (มม.)
ความลึกของร่องสกรู
ช่วง metering zone (มม.)
30
5
2.5
50
6
3
70
8
4
หัวฉีด
หัวฉีดแบบเปิดสามารถนำมาใช้ในกระบวนการขึ้นรูป Luran S เพราะ การหลอมเหลวของLuran S มีความสัมพันธ์กับความหนืด หัวฉีดแบบเปิดมีการออกแบบที่เรียบง่ายและให้คุณสมบัติด้านการไหลเวียนที่ดี หัวสูบแบบปิดมีข้อได้เปรียบเมื่อมีการใช้ความดันย้อนกลับสูง หรือสายอนุกรมที่ไม่ต้องการต้องถูกหลีกเลี่ยงและ การผลิตชิ้นส่วนที่มีผนังหนา การเดินเครื่องด้วยเครื่องจักรหรือด้วยพลังน้ำของหัวฉีดวาล์วรูเข็มได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำงานได้ดีที่สุด
การออกแบบรูเข้าและแม่พิมพ์
สามารถใช้รูเข้าประเภทใดก็ได้ รวมถึงระบบรูวิ่งแบบร้อนด้วย คู่มือสำหรับการออกแบบรูเข้าและแม่พิมพ์สำหรับการผลิตแม่พิมพ์ขึ้นรูปชิ้นส่วนจากเทอร์โมพลาสติก (VDI 2006) ก็สามารถใช้กับ Luran S ได้ ช่องของรูเข้าและฟีดชาเนลไม่ควรเล็กเกินไป ไม่เช่นนั้นต้องใช้อุณหภูมิหลอมเหลวและแรงดันการฉีดที่สูงมาก ซึ่งจะมีผลให้เกิดริ้วรอย รอยไหม้ดำ ช่องว่าง หรือรอยปุ๋มได้
การใช้งานแบบแทรก
ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะสามารถนำมาใช้ในการขึ้นรูปได้โดยไม่มีปัญหา แต่ควรนำไปอุ่นที่อุณหภูมิ 80-120 °C ก่อนที่จะนำไปใส่ในแม่พิมพ์ เพื่อไม่ให้เกิดรอยกดภายใน ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะต้องปราศจากน้ำมัน และเพื่อเพิ่มความเกาะติด ควรมีพื้นผิวที่เป็นร่องหรือผิวที่มีลักษณะคล้ายกัน ขอบของโละควรมีทำให้มีลักษณะกลม
การควบคุมอุณหภูมิของแม่พิมพ์
การออกแบบอย่างระมัดระวังของระบบควบคุมอุณหภูมิแม่พิมพ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เมื่ออุณหภูมิของพื้นผิวแม่พิมพ์ที่ได้ประสิทธิภาพนั้นมีผลต่อคุณภาพของผิวงาน (ความมันเงา ทิศทางการไหล) และต่อความแข็งแรงของรอยเชื่อมประสาน การเสียรูป การหดตัว และค่าโทเลอเรนซ์ของแม่พิมพ์ อุณหภูมิของผิวแม่พิมพ์ที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์เกรด Luran S แสดงไว้ในตารางด้านล่าง นี้ ทั้งนี้เราสามารถทำให้การผิดรูปของแบบพิมพ์เกิดน้อยลงได้ ด้วยการแยกและทำการควบคุมอุณหภูมิของแม่พิมพ์ทั้ง 2 ส่วนให้แตกต่างกัน
อุณหภูมิของผิวแม่พิมพ์ที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์เกรด Luran® S:
อุณหภูมิขณะกระบวนการขึ้นรูป (°C)
อุณหภูมิแม่พิมพ์
(°C)
การหดตัว
(%)
Luran S - ASA grades
240-280 °C
40-80 °C
0.4-0.7
Luran S - ASA/PC grades
260-300 °C
60-90 °C
0.3-0.7
Luran S KR 2867 C WU
260-280 °C
40-60 °C
0.3-0.7
อุณหภูมิกระบวนการขึ้นรูป
เนื้อพลาสติกของผลิตภัณฑ์ Luran S มักจะถูกนำไปขึ้นรูปที่อุณหภูมิหลอมเหลวประมาณ 240-280 °C แต่เกรดที่เป็นการผสมกันระหว่าง Luran® S กับโพลีคาร์บอเนต (เช่น Luran® S KR 2861/1 C) ควรใช้อุณหภูมิที่ 260-300°C ยกเว้นในเกรดที่มีสารหน่วงการติด Luran® S KR 2867 CWU ซึ่งช่วงอุณหภูมิที่แนะนำคือ 260 - 280°C (ตามตารางที่ 4) สำหรับการขึ้นรูปที่ช่วงอุณหภูมิสูงสุด มากกว่านี้ควรใช้เรสสิเดนท์ไทม์แบบสั้นๆ เพราะไม่เช่นนั้นวัสดุอาจจะสลายตัวจากความร้อนได้ สิ่งนี้สามารถเห็นได้ในคอมพาวด์ที่มีสี โดยสีจะมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่วนใหญ่จะกลายเป็นสีที่ซีดลง
ลักษณะการฟีด
แม้ในระดับการหมุนที่เร็วของสกรู การขึ้นรูปพลาสติกตามแม่พิมพ์ของ Luran S ยังคงดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและไม่มีการสลายตัวจากความร้อน ประสิทธิภาพของการพลาสติกฟิเคชั่นเพิ่มขึ้นพร้อมกับอุณหภูมิการขึ้นรูปที่สูงขึ้นด้วย
สำหรับอุณหภูมิการขึ้นรูปที่สูงและ/หรือสำหรับ Cycle Time ที่ยาวนั้นอุณหภูมิของการแถบทำความร้อนตัวแรก (ใกล้กับกรวยฟีด) ควรเซ็ตไว้ที่ต่ำกว่าเพื่อป้องกันการหลอมละลายเกินไปของเม็ดพลาสติกในฟีดโซน (bridging)
การฉีดพลาสติกเข้าสู่แม่พิมพ์
ความเร็วในการฉีดที่ค่อนข้างสูงนั้นมีประโยชน์เพราะในการหว่างการฉีดเข้าแม่พิมพ์นั้นจะมีความเย็นเกิดขึ้นเล็กน้อย สื่งนี้จะให้ความมันเงาของผิว รอยเชื่อมประสานที่มองเห็นได้ไม่ชัด และรอยเชื่อมประสานที่มีความแข็งแรงมาก หากความเร็วในการการฉีดต่ำเกินไป จะทำให้ชิ้นงานมีผิวที่ไม่สวยงาม ขณะที่พลาสติกเหลวถูกฉีด ควรระมัดระวังเรื่องอากาศอาจเข้ามาในรูปทรงชิ้นงานในแม่พิมพ์ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการไหม้เกรียมโดยความกดอากาศ (diesel effect) เพื่อให้ได้ชิ้นงานการฉีดขึ้นรูปที่สมบูรณ์แบบและเพื่อป้องกันการเกิดช่องว่าง ความดันฉีดย้ำและเวลาฉีดย้ำต้องเพียงพอที่จะชดเชยการลดลงของปริมาณที่เกิดขึ้นเมื่อพลาสติกเหลวเย็นตัวลง ในทางตรงกันข้าม การฟีดมากเกินความต้องการของโพรงแม่พิมพ์เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากจำทำให้เกิดรอยกดในงานพิมพ์ได้ ความเสี่ยงในการฟีดมากเกินไปมักเกิดขึ้นบ่อยๆที่บริเวณใกล้กับช่องทางไหลเข้า ในอัตราการฉีดและเวลาฉีดย้ำที่สูง
ลักษณะการฟีด
การทดลอง Spiral Flow ในรูปที่ 14 และ 15 แสดงให้เห็นถึงลักษณะการไหลเวียนของ Luran S
รูปที่ 14 : Flowability of Luran S (ASA) as a function of melt temperature (spiral flow test)
แม่พิมพ์ : ทดสอบสไปรอล 2 x 10 มล. ; ความดันการฉีดที่ 1100 บาร์; อุณหภูมิผิวแม่พิมพ์ที่ 60 °C
รูปที่ 15 : Flowability of Luran S (ASA+PC) as a function of melt temperature (spiral flow test)แม่พิมพ์ : ทดสอบสไปรอล 2 x 10 มล. ; ความดันการฉีดที่ 1100 บาร์; อุณหภูมิผิวแม่พิมพ์ที่ 80 °C
การปลดชิ้นงานในแม่พิมพ์
Luran S สามารถพร้อมที่จะถอดแม่พิมพ์ ถึงแม้จะเป็นแม่พิมพ์ที่มีการออกแบบอย่างซับซ้อนก็ตาม โดยค่ามุมสอบ (draft) ที่ 0.5 - 0.9° ถือว่าเพียงพอแล้ว หากชิ้นงานมีลักษณะผิวที่ละเอียด ค่ามุมสอบ (draft) จะเพิ่มขึ้น: 1° ซึ่งจะทำให้สามารถถอดชิ้นงานได้ที่ความลึกผิวงาน 0.02มล. จากโพรงแม่พิมพ์และ 0.01 มล.จากแกนแม่พิมพ์
การหดตัวและภาวะหลังการหดตัว
การหดตัวของพลาสติกขึ้นรูปเกรด Luran S จะเกิดขึ้นน้อยกว่าในพลาสติกชนิด เซมิ คริสทัลไลน์ กระบวนการหดตัวนั้นมักจะอยู่ที่ประมาณ 0.4-0.7% และต่ำกว่า 0.4% ในกรณียกเว้น
ในส่วนของงานพิมพ์ที่เคยถูกใช้ความดันฉีดย้ำที่สูง (ใกล้กับช่องทางไหลเข้า) นั้น
อาจใกล้เคียงกับ 0% การหดตัวภายหลัง เกิดขึ้นเล็กน้อยในการใช้งานส่วนใหญ่ มีสัดส่วนถึง 1/10 ของการหดตัวทั้งหมด
การอัดรีดขึ้นรูป
Luran S นั้นเหมาะกับการอัดรีด แผ่นพลาสติก โปรไฟล์ที่มีความแข็ง, กลวง และท่อ เป็นอย่างมาก การอัดรีดขึ้นรูปในเกรดพิเศษนั้นสามารถทำได้ และถูกบ่งชี้ด้วยตัวอักษร “E” (เช่น Luran S 797 SE)
การผลิตแผ่นชีทพลาสติก
เครื่องอัดรีดขึ้นรูปที่ใช้สำหรับการผลิตแผ่นชีทพลาสติกรวมถึงการใช้งานแบบทั่วไปเพื่อผลิตสารปรับแต่งเพื่อรับแรงกระแทกระหว่างโพลีสไตรีนและ ABS นั้นมีแผ่นแม่พิมพ์อัดรีด เครื่องอัดรีดแบบมีรูระบาย ความยาวสกรูที่ 25-30D และอัตราการอัดรีดที่ 1:2 – 1:4 นั้นเป็นที่นิยมใช้มากกว่า ในกรณีส่วนใหญ่ กำลังการผลิตที่สูงสุดจองแผ่นชีทที่มีคุณสมบัติเชิงกลดีเยี่ยมและมีความสวยงามนั้นจะประสบความสำเร็จที่อุณหภูมิ 230°C สำหรับเกรด ASA หรือประมาณ 260°C สำหรับ เกรด ASA/PC
การผลิตท่อและ โครงร่าง
การผลิตท่อและโครง มีเงื่อนไขการนำไปใช้เช่นเดียวกับการอัดรีดแผ่นชีท อุณหภูมิหลอมเหลว ควรเช็ตให้ต่ำเพื่อให้มีค่า เมลท์ สเตรนจ์ที่เพียงพอระหว่าง แม่พิมพ์และตัววัด ซึ่งอุณหภูมิต่ำกว่าที่กำหนดคือ 200 °C สภาพของที่หล่อเย็นควรตั้งไว้ให้อุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ประมาณ 70 - 80°C สำหรับผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จ หลังจากนำไปผ่านน้ำ
การเป่าขึ้นรูป
ผลิตภัณฑ์เกรด Luran S ที่เหมาะกับการทำเป่าขึ้นรูป คือต้องมีความสามารถในการไหลเวียนต่ำ ซึ่งควรอัดรีดที่อุณหภูมิหลอมเหลวที่ 220-230°C. ในบางกรณี อุณหภูมิหลอมเหลวอาจจะต่ำกว่า โดยอยู่ที่ 210°C เพื่อที่จะลดการเหยียดตัวของท่อ (extruded tube) ควรหลีกเลี่ยงการใช้แบบพิมพ์ที่มีความเว้า ในบริเวณ pinch-off นั้นสามารถออกแบบให้เหมือนกับในกระบวนการสำหรับ PE-HD ได้ ขอบ pinch-off ควรมีความคมมากเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้การลบแฟลชเป็นไปได้ง่ายขึ้น ในกรณีของชิ้นส่วนเชิงวิศวกรรม บริเวณที่เป็นแฟลช นั้นควรถูกตัดออกโดยการpinch-off
เทอร์โมฟอร์มมิ่ง
แผ่นพลาสติกหรือแผ่นฟิล์มที่ทำจาก Luran S สามารถทำเทอร์โมฟอร์มได้ ซึ่งจะทำให้ชิ้นงานมีผนังที่หนา การทำเทอร์โมฟอร์มมิ่งของผลิตภัณฑ์ Luran S สามารถทำได้โดยการใช้เครื่องพื้นฐานสำหรับการรีดสูญญากาศ และการรีดอัดอากาศของแผ่นพลาสติกและฟิล์ม อุณหภูมิที่ใช้ควรอยู่ที่ 140 - 170°C.
การจัดเก็บและบรรจุแผ่นพลาสติกเทอร์โมฟอร์มมิ่ง
เช่นเดียวกับ ABS และ LuranS ที่มีแนวโน้มการดูดซึมความชื้นได้ในสภาพแวดล้อมของการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม แผ่นพลาสติกเทอร์โมฟอร์มมิ่งซึ่งหากได้รับความชื้นจะเกิดเป็นฟองอากาศและทำให้ไม่สามารถใช้ในการขึ้นรูปได้ การจัดเก็บในพื้นที่แห้ง (ประมาณ 20°C, ความชื้น30% ) ช่วยป้องกันการดูดซับความชื้นที่สร้างความบกพร่องแก่เทอร์โมฟอร์มมิ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าที่จัดเก็บอยู่ในเงื่อนไข ที่มีอุณหภูมิและความดันมาตราฐาน (DIN 50014-23/50-2) ความชื้นอาจมากถึงระดับที่เป็นผลเสียต่อกระบวนการขึ้นรูปหลังจาก 2-3วันหรือเป็นสัปดาห์
กระบวนการหลังการขึ้นรูป
การสร้างรูปทรงของชิ้นงานที่ต้องการ
ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จที่ทำจาก Luran® S นั้นง่ายต่อการตัดแต่ง อย่างเช่น เครื่องมือปั๊ม เลื่อย เจาะรู กลึง บิด และอื่นๆ โดยใช้เครื่องมือเหล็กธรรมดาและเครื่องมือจากงานไม้ เนื่องด้วยการกระจายตัวของความร้อนเป็นไปอย่างช้าๆ การหล่อเย็นด้วยน้ำจึงมีสิ่งจำเป็นอย่างสม่ำเสมอ แม้แต่ในช่วงการตัดด้วยความเร็วต่ำก็ตาม ชิ้นงานที่ทำจาก Luran® S สามารถนำไปตอก หรือทำเป็นเฟลนจ์ประกอบกับส่วนอื่นๆได้โดยไม่ลำบากและสามารถขันให้แน่นได้โดยใช้สกรูชนิดที่เจาะกัดเกลียวเองได้ในตัว
การเชื่อม
ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จและงานขึ้นรูปที่ทำจาก Luran® S เหมาะกับการนำไปเชื่อมแบบการใช้โลหะแผ่นร้อน และการเชื่อมด้วยเครื่องเชื่อมพลาสติกแบบหมุน ในกรณีพิเศษอาจมีการเชื่อมด้วยระบบสั่น การเชื่อมด้วยอัลตราโซนิคร่วมด้วยเช่นกัน การเชื่อมด้วยอัลตราโซนิค สามารถนำไปใช้ยึดติดกับงานขึ้นรูป Luran® S กับงานขึ้นรูปของเทอร์โมพลาสติกชนิดที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น SAN, ASA, PVC และ PMMA
การยึดติดด้วยกาว
โซลเวนท์ อย่างเช่น เมทิลเอทิล คีโทน ไดโคลโรเอทิลีน หรือ ไซโคลเฮกซาน่อน สามารถทำให้ Luran® S ละลายได้และสามารถใช้เพื่อการยึดติด ชิ้นส่วนที่ทำจาก Luran® S เข้ากับชิ้นส่วนที่ทำจาก SAN หรือ ABS. อย่างไรก็ตามการทดลองก่อนการผลิตจริงเป็นสิ่งทำเป็นในทุกกรณี หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เราแนะนำให้คุณขอข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมกาวและสารยึดติด ซึ่งจะเสนอสารยึดติดชนิดพิเศษที่หลากหลายให้คุณได้
การปรับปรุงผิวชิ้นงาน
ชิ้นส่วนที่ทำจาก Luran® S สามารถพิมพ์ลาย เคลือบ หรือลงสี อย่างถาวรได้ง่าย โดยไม่ต้องมีขั้นตอนพิเศษก่อนทำ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปเคลือบด้วยชั้นบางๆของโลหะได้ ซึ่งมักใช้งานกันในอุตสาหกรรม
ข้อพึงระวังด้านความปลอดภัยในขณะกระบวนการขึ้นรูป
ไม่พบว่ามีผลกระทบอันตรายต่อสุขภาพของผู้ที่ทำงานในกระบวนการผลิตขึ้นรูป เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และมีการถ่ายเทอากาศที่เหมาะสมของเขตการผลิต ค่าที่อนุญาตสูงสุดอยู่ที่
20 ml/m3 สำหรับสไตรีน
100 ml/m3สำหรับ อัลฟ่า เมทิล สไตรีน
10 ml/m3 สำหรับ บูทิลอะคริเลท
การอ้างอิงเชิงเทคนิคถึงความเข้มข้นที่ 3ml/m3 สำหรับ อะคริโลไนไตร์ลต้องได้รับการปฏิบัติตาม (ตามข้อกำหนดเรื่องวัสดุที่เป็นอันตราย 900; รายชื่อ MAC 1999 ของเยอรมัน)
อะคริโรไนไตร์ล นั้นถูกจัดอยู่ในกลุ่ม III สาร A2 เป็นสารที่สัณนิษฐานว่าเป็นสารก่อมะเร็งตามการทดลองความเป็นพิษ จากประสบการณ์แสดงให้เห็นว่า เมื่อกระบวนการผลิตขึ้นรูป Luran S เป็นไปอย่างถูกต้องในที่ที่มีอากาศถ่ายเทอย่างเหมาะสม ระดับความเข้มข้นยังคงอยู่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้เบื้องต้นมาก ควรหลีกเลี่ยงการสูดหายใจไอระเหยของผลิตภัณฑ์ที่สลายตัวซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีการใช้ความร้อนเกินในวัสดุ หรือระหว่างการสูบออก กรุณาศึกษาเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของเรา
-
Safety Data Sheet